คำนิยามเกี่ยวกับที่ดิน

 คำนิยามเกี่ยวกับที่ดิน

“ที่ดิน” หมายความว่า พื้นที่ดินทั่วไป และให้หมายความรวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขา ห้วย หนอง คลอง บึง บาง ลำน้ำ ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเลด้วย

“สิทธิในที่ดิน” หมายความว่า กรรมสิทธิ์และให้หมายความรวมถึงสิทธิครอบครองด้วย

“ใบจอง” หมายความว่า หนังสือแสดงการยินยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว

“หนังสือรับรองการทำประโยชน์” หมายความว่า หนังสือคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ ทำประโยชน์แล้ว

 “โฉนดที่ดิน” หมายความว่า หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และให้หมายความรวมถึง โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว”

“การรังวัดที่ดิน” หมายความว่า การรังวัดปักเขตและทำเขต ตอ หรือคำนวณ การรังวัดเพื่อให้ทราบที่ตั้ง และเนื้อที่ของที่ดิน

การจัดที่ดินเพื่อประชาชน

ทางราชการจะจัดที่ดินที่ไม่มีเจ้าของ, ไม่ใช่ที่สาธารณะ, มิใช่ที่หวงห้าม, มิใช่ที่ภูเขา นำมาแบ่งเป็นแปลงย่อย ๆ ให้แก่ประชาชนทั่วไปเพื่อใช้ทำกิน ซึ่งผู้มีสิทธิ์ที่จะเข้าจับจองที่ดินที่รัฐจัดให้นี้ ต้องเป็น บุคคลสัญชาติไทย มีความประพฤติดี และไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง หรือมีอยู่แล้วแต่ไม่พอแก่การเลี้ยงชีพ

การที่จะได้สิทธิในที่ดินที่ราชการจัดให้เพื่อประชาชน

เมื่อทางราชการได้กำหนดให้ที่ดินเขตใดเป็นเขตจัดที่ดินให้ประชาชนก็จะติดประกาศเป็นเวลา 30 วัน ณ ที่อำเภอ, ที่ทำการตำบลหรือหมู่บ้าน และที่ที่ดินที่จะจัดให้จับจอง แห่งละ 1 ฉบับ และ ภายในเวลาที่กำหนด (30 วัน) ประชาชนผู้สนใจต้องยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอจับจองที่ดินที่ทางราช การจัดให้ และหากไม่มีผู้ใดมาคัดค้านว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนเอง หรือเป็นที่ดินสาธารณะฯ ทางราชการก็จะคัดเลือกบุคคลที่ได้ยื่นคำขอจับจองไว้ให้เข้าอยู่อาศัยโดยถือเกณฑ์บุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน ท้องถิ่นที่ที่ดินที่จัดให้ตั้งอยู่เป็นลำดับแรก และบุคคลท้องที่อื่นเป็นลำดับต่อไป หากที่ดินมีไม่พอ ก็จะใช้ วิธีจับฉลากเอาจากนั้นทางพนักงานเจ้าหน้าที่จะออกใบจองให้ไว้เป็นหลักฐาน

หน้าที่ของผู้ที่ได้รับใบจอง

ผู้ถือใบจองต้องเริ่มทำประโยชน์ในที่ดินที่จับจองภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ได้รับใบจองและ ภายใน 3 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบจอง ผู้ถือใบจองต้องทำประโยชน์ให้แล้วเสร็จจำนวน 3 ใน 4 ของที่ดินที่ ได้จับจอง หากผู้ถือใบจองไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ ก็จะต้องออกจากที่ดินที่ได้จับจองนั้น

หากท่านได้รับคำสั่งให้ออกจากที่ดินที่จับจอง ท่านจะต้องทำอย่างไร

เมื่อผู้ถือใบจองไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการจัด ที่ดินแห่งชาติ อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจสั่งให้บุคคลนั้นออกจากที่ดินได้ ถ้าผู้ถือใบจองไม่พอใจคำสั่งของ อธิบดีกรมที่ดิน ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ ได้รับคำสั่งให้ออกจากที่ดิน และถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ได้สั่งการภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ให้ถือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งให้ผู้ถือใบจองมีสิทธิ์ครอบครองที่ดิน นั้นต่อไป แต่ผู้ถือใบจองต้องทำตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขข้อกำหนดดังเดิม

การขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ หรือ น.ส. ๓ ก.)

หากท่านได้มีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาแล้ว แต่ที่ดินของท่านยังไม่มีเอกสาร สิทธิ์เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ หรือ น.ส. ๓ ก.) และท่านต้องการที่จะมีเอกสารสิทธิ์ ดังกล่าว ท่านจะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ดังนี้

1. เป็นที่ดินที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์

2. ต้องไม่เป็นที่ดินที่ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางน้ำทางหลวง ทะเลสาบ ตลิ่ง

3. ต้องไม่เป็นที่เขา ที่ภูเขา หรือที่สงวนหวงห้าม หรือที่ดินที่ทางราชการเห็นว่าควรสงวนไว้ เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ

หลักฐานที่จะต้องนำไปแสดงในการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์

1. บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา

2. แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1)

3. ใบรับแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน

4. ใบจองหรือใบเหยียบย่ำ

5. ตราจองเป็นใบอนุญาต

6. หลักฐานการเสียภาษีที่ดินหรือหลักฐานอื่น ๆ ในกรณีที่ไม่ได้แจ้งการครอบครองและไม่อยู่ใน ท้องที่ที่ประกาศเป็นเขตเดินสำรวจ เพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.)

ขั้นตอนการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์

 เมื่อผู้ขอยื่นคำขอพร้อมหลักฐานข้างต้น ต่อนายอำเภอหรือปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอท้องที่ที่ดินตั้งอยู่แล้ว นายอำเภอหรือปลัดอำเภอก็จะมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ออกไปทำการรังวัด พิสูจน์สอบสวนว่าผู้ยื่นคำขอได้ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นแล้ว และเจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ดินของผู้ยื่นคำขอ ต้องระวังชี้แนวเขตและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานด้วย จากนั้นนายอำเภอหรือปลัดอำเภอก็จะทำการประกาศคำขอ 30 วัน ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการตำบล และในบริเวณที่ที่ดินขอออก หนังสือรับรองการทำประโยชน์และสำนักงานเทศบาล แห่งละ 1 ฉบับ หากไม่มีผู้คัดค้าน ก็ให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต่อไป

กรณีมีผู้คัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์

ถ้ามีผู้คัดค้าน นายอำเภอหรือปลัดอำเภอก็จะทำการสอบสวนเปรียบเทียบ ถ้าตกลงกันได้ก็เป็นไปตามนั้น หากตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีคำสั่งว่าจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่ฝ่ายใด และ ฝ่ายที่ไม่พอใจให้ไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งประการใด ให้ดำเนินการไปตามคำพิพากษา หรือคำสั่งนั้นถ้าฝ่ายที่ไม่พอใจคำสั่ง ของนายอำเภอหรือปลัดอำเภอไม่ทำการฟ้องภายใน 60 วัน ก็ให้ดำเนินการไปตามคำสั่งของนายอำเภอ หรือปลัดอำเภอนั้น

หมายเหตุ หากปรากฏว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ออกไปโดยความหลงผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย หรือ ไม่ถูกต้องด้วยประการใดก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งเพิกถอน น.ส. 3 ได้

การขอออกโฉนดที่ดิน

กรณีที่ท่านมีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาแล้ว แต่ที่ดินของท่านยังไม่มีเอกสาร สิทธิ์เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 หรือ น.ส. 3 ก.) หรือท่านมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 หรือ น.ส. 3 ก.) แล้วแต่ต้องการได้เอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินแทน ท่านจะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ ดังนี้.

1. เป็นที่ดินที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์แล้ว

2. ต้องไม่เป็นที่ดินที่ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ ตลิ่ง

3. ต้องไม่เป็นที่เขา ที่ภูเขา หรือที่สงวนหวงห้าม หรือที่ดินที่ทางราชการเห็นว่าควรสงวนไว้ เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ

4. ต้องเป็นที่ดินที่ได้มีระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดินแล้ว

หลักฐานที่จะต้องนำไปแสดงในการขอออกโฉนดที่ดิน

1. บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา

2. แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1)

3. ใบรับแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน

4. ใบจองหรือใบเหยียบย่ำ

5. ตราจองเป็นใบอนุญาต

6. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือใบสำคัญแสดงการนำที่ดินขึ้นทะเบียน (น.ส. 3)

7. หนังสือแสดงการทำประโยชน์ ในกรณีที่ได้รับการจัดที่ดินในนิคมสรางตนเอง หรือสหกรณ นิคม

8. หลักฐานการเสียภาษีที่ดินหรือหลักฐานอื่น ๆ ในกรณีที่ไมไดแจงการครอบครอง และไมอยู ในทองที่ที่ประกาศเปนเขตเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั้งตำบล

ขั้นตอนการออกโฉนดที่ดิน

เมื่อผูขอยื่นคำขอพรอมหลักฐานขางตน ตอเจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจาพนักงานที่ดินสาขา แลวแตกรณี เจาหนาที่จะออกไปทำการรังวัดและทำการไตสวนเจาของที่ดิน ผูปกครองทองที่และเจาของ ที่ดินขางเคียง ซึ่งเจาของที่ดินขางเคียงตองไประวังชี้แนวเขตและลงลายมือชื่อไวเปนหลักฐานดวย จากนั้น เจาพนักงานที่ดินก็จะทำการประกาศคำขอ 30 วัน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินสาขา ที่วาการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการตำบล และในบริเวณที่ที่ดินขอออกโฉนด และสำนักงานเขตเทศบาล แหงละ 1 ฉบับ หากไมมีผูคัดคาน ก็ใหออกโฉนดที่ดินตอไป

กรณีมีผูคัดคานการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน

ามีผูคัดคาน เจาพนักงานที่ดินก็จะทำการสอบสวนเปรียบเทียบ ถาตกลงกันไดก็เปนไปตามนั้น หากตกลงกันไมได้ เจาพนักงานที่ดินก็จะเสนอเรื่องพรอมความเห็นไปใหผูาราชการจังหวัดพิจารณา สั่งการ เมื่อผูาราชการจังหวัดสั่งแลว ถาฝายใดไมพอใจก็ใหไปทำดำเนินการฟองรองตอศาลภายใน กำหนด 30 วัน นับแตวันรับทราบคำสั่ง เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งประการใด ใหดำเนินการไปตาม คำพิพากษา หรือคำสั่งนั้น ถาฝายที่ไมพอใจไมทำการฟองภายใน 30 วัน ก็ใหดำเนินการไปตามคำสั่งของ ผูาราชการจังหวัด

การขอออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือโฉนดที่ดิน

อาจมีกรณีที่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือโฉนดที่ดินที่เก็บไวชำรุดบางสวน แตพอ ตรวจสอบได้ หรือชำรุดจนไมอาจตรวจสอบได้ หรือสูญหายทั้งฉบับ และเจาของหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเจาของโฉนดที่ดินตองการใหเจาหนาที่พนักงานที่ดินออกหนังสือรับรองการทำประโยชน หรือโฉนดที่ดินใหมแทนฉบับที่ชำรุดหรือสูญหาย เจาของหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือโฉนดที่ดิน ตองพิจารณาดังนี้

กรณีเอกสารชำรุด แตยังพอตรวจสอบได้ องมีหลักเกณฑดังนี้

าเปนโฉนดที่ดิน เอกสารที่ชำรุดตองมีตำแหนงที่ดิน เลขที่โฉนดที่ดิน ชื่อและตราประทับ ประจำตำแหนงของผูาราชการจังหวัด และหรือชื่อและตราประจำตำแหนงของเจาพนักงานที่ดิน

าเปนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เอกสารที่ชำรุดตองมีตำแหนงเลขที่ น.ส. 3 หรือ น.ส. 3 ก. ชื่อและตราประจำตำแหนงของนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผูเปนหัวหนาประจำกิ่งอำเภอ ทั้งสองกรณีตองมีหลักฐานประกอบในการยื่นตอพนักงานเจาหนาที่ที่ดิน ดังนี้

 – โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ที่ชำรุด

– บัตรประจำตัวผูขอ

– ทะเบียนบาน

กรณีเอกสารสูญหาย หรือชำรุดจนไมอาจตรวจสอบได้ นอกจากตองมีเอกสารดังกลาวขางตนแลว จะตองมีเอกสารดังตอไปนี้เพิ่มเติมดวย

– หลักฐานการรับแจงความของพนักงานสอบสวน เชน สำเนารายงานประจำวันธุรการ รายงาน ประจำวันเกี่ยวกับคดี หรือแบบเรื่องราวขออนุญาตตาง ๆ ซึ่งพนักงานสอบสวนไดมีคำสั่งวาไดรับแจงและลงประจำวันแล

– ตองนำพยานที่เชื่อถือไดและรูเห็นการสูญหายของโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชนนั้นอยางนอย 2 คน พรอมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนของพยานทั้ง 2 คนไปใหเจาพนักงานที่ดินสอบสวน

– ถาเปนกรณีศาลหรือเจ้าพนักงานตามกฎหมายขอใหออกใบแทน ใหนำสำเนาคำสั่ง หรือคำพิพากษาอันถึงที่สุด หรือหนังสือรองขอไปดวย

หมายเหตุ

กรณีที่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือโฉนดที่ดินไมสูญหาย แตเจาของเอกสารสิทธิ์นั้น ไดดำเนินการแจงความหรือทำคำขอตอเจาพนักงานที่ดินเพื่อใหไดหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือโฉนดที่ดินฉบับใบแทนมา กรณีนี้ถือเปนการแจงความเท็จ มีความผิดทั้งเจาของเอกสารสิทธิ์ที่แจงและบุคคลที่เปนพยาน ซึ่งโทรของการแจงความเท็จตอพนักงานเจาหนาที่นั้น ไดบัญญัติตามประมวลกฎหมาย อาญาดังนี้

มาตรา 137 ผูใดแจงความอันเปนเท็จแกเจาพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผูอื่นหรือประชาชนเสียหาย ตองระวางโทษจำคุกไมเกินหกเดือน หรือปรับไมเกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ผูใดที่มีเจตนาจะกระทำการดังกลาว ตองพิจารณาใหดีวาที่ตนจะกระทำนั้น คุมตอความผิดหรือไม

 การไดมาซึ่งสิทธิ์ในที่ดินโดยกฎหมายอื่น

การไดสิทธิ์ในที่ดินอาจไดมาทางอื่น เชน ทางนิติกรรม, โดยการรับมรดก, การครอบครอง ปรปกษ, การไดมาซึ่งที่งอกริมตลิ่ง ซึ่งสามารถแยกไดดังนี้

การไดกรรมสิทธิ์โดยทางนิติกรรม

การไดกรรมสิทธิ์โดยทางนิติกรรม ไดแก่ ไดกรรมสิทธิ์โดยการซื้อขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ใหเชาซื้อ การบังคับจำนอง ซึ่งสามารถพิจารณาดังนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *